|
เรื่องที่ 2.1.1 แบบผังวงกลม
เป็นแบบที่
ก. ใช้วงกลมแทนกิจกรรม
ข. ลูกศรแทนความสัมพันธ์ก่อนหลังของกิจกรรม
เช่น
ค. ใช้เส้นประ แทนกิจกรรมสมมติ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้เกิดผล
เป็นกิจกรรมสมมติซึ่งมีความสัมพันธ์เป็นเส้นประ แสดงว่า กิจกรรม ค จะทำได้อาจเริ่มจากกิจกรรม ก, ข หรือ ก ก็ได้
นอกจากนี้มีกติกาของการเขียนดังนี้
วงกลม แทนเหตุการณ์ของจุดเริ่มต้น จุดสิ้นสุด
ลูกศร แทนกิจกรรม ซึ่งปลายลูกศร แสดงถึงส่วนต้นของกิจกรรม
และ หัวลูกศรแสดงถึงส่วนสิ้นสุดของกิจกรรม
เริ่มต้นของกิจกรรม สิ้นสุดของกิจกรรม
ใส่หมายเลขกำกับในวงกลม แทนหมายเลขของเหตุการณ์ แสดงจุดเริ่มต้น และสุดสิ้นสุดของกิจกรรม
บางครั้งใช้กิจกรรมแทนตรงความยาวของลูฏศรได้
การกำหนดหมายเลขในกิจกรรมต้องเริ่มจากตัวเลขจำนวนน้อยให้อยู่ตอนปลายของลูกศรไปยังตัวเลขจำนวน
มากกว่าให้อยู่ตอนหัวลูกศร
เช่น
การเขียนตัวเลขที่ผิดในที่นี้กิจกรรม C ใส่หมายเลขจาก 3 ไปเป็น 2 ซึ่งที่ถูกจะแก้เป็นจาก 2 ไป 3 เพราะตัวเลข
จำนวนน้อยให้อยู่ตอนปลายของลูกศรไปยังตัวเลขจำนวนมากกว่าให้อยู่ตอนหัวของลูกศร
แก้เป็น
ไม่ใช้การเขียนลูกศรทับกัน
ในที่นี้ลูกศรของเส้น B, D ทับกัน
แก้เป็น
ความยาวของลูกศรมีขนาดใกล้เคียงกัน
แก้เป็น
มุมระหว่างกิจกรรมมีความกว้างพอควร และไม่ควรใช้เส้นประโดยไม่จำเป็น
เช่น
ตัวอย่าง 2.1 จงเขียนโครงข่ายสำหรับโครงงาน โดยมีข้อแม้ว่า
1. กิจกรรม A, B, C เป็นกิจกรรมแรกและเริ่มต้นพร้อมกัน
กิจกรรม I, G, L เป็นกิจกรรมสุดท้ายที่ทำได้ในขณะเดียวกัน
2. กิจกรรม A, B อยู่ก่อนกิจกรรม D
กิจกรรม B อยู่ก่อนกิจกรรม E, F, H
กิจกรรม F, C อยู่ก่อนกิจกรรม G
กิจกรรม E, H อยู่ก่อนกิจกรรม I, J
กิจกรรม C, D, F, J อยู่ก่อนกิจกรรม K
กิจกรรม K อยู่ก่อนกิจกรรม L
วิธีทำ
ตัวอย่าง 2.2 กำหนดให้
กิจกรรม A เป็นกิจกรรมแรก
กิจกรรม B, C เป็นกิจกรรมทำหลังกิจกรรม A
กิจกรรม B, C เป็นกิจกรรมทำก่อนกิจกรรม D
กิจกรรม C เป็นกิจกรรมทำก่อนกิจกรรม E
กิจกรรม D, E ทำก่อนกิจกรรม F
จงเขียนโครงข่ายของโครงงาน
วิธีทำ
หลังจากที่สร้างโครงข่ายแล้ว ต้องทำการวิเคราะห์โครงข่ายที่สร้างขึ้น เพื่อหาเส้นวิกฤตของโครงข่าย ซึ่งทำให้ทราบถึงเวลา
ของโครงงานที่ได้จากผลรวมของเวลาที่ใช้ทำกิจกรรมซึ่งอยู่บนเส้นวิกฤต ดังนั้นต้องคำนวณเวลาต่าง ๆ ของกิจกรรมก่อนเพื่อจะ
ทราบว่ากิจกรรมใดเป็นกิจกรรมวิกฤต หรือเป็นกิจกรรมไม่วิกฤต
|
|