เรื่องที่ 8.5 การทดสอบและพัฒนาคำตอบเพื่อหาคำตอบที่ดีที่สุด
การตรวจสอบว่าคำตอบที่เป็นไปได้เบื้องต้นนั้นให้คำตอบที่มีค่าขนส่งโดยรวมต่ำสุดแล้วหรือไม่ อาจเริ่มต้นจาก
การหาคำตอบที่เป็นไปได้เบื้องต้นวิธีใดวิธีหนึ่งก็ได้ ผลลัพธ์นั้นจะทำให้คำตอบที่มีต้นทุนต่ำสุดเท่ากันเสมอ ในที่นี้จะนำเสนอ
วิธีการคำนวณ 2 วิธีด้วยกัน ซึ่งเป็นที่นิยมกันอยู่ทั่วไป นั่นคือ 1. Stepping Method และ 2. MODI Method
แต่จะต้องมีเงื่อนไขที่สำคัญ คือ จำนวนผลลัพธ์เบื้องต้นที่ได้กล่าวมาก่อนหน้าแล้วจะต้องมีจำนวนเท่ากับ
จำนวนแถว+จำนวนสดมภ์-1 มิฉะนั้นจะเกิดปัญหาการย้อนวนในการหาคำตอบที่ดีที่สุด (degenerate) จึงขอกล่าว
นอกเหนือจากกบทเรียนเพิ่มเติมเป็น 3 วิธี อีกวิธีคือ 3 Degeneracy เป็นวิธีแก้ปัญหาการขนส่งจากวิธีโมได
ในกรณีที่ผลลัพธ์ในตารางมีจำนวนสโตน เซลล์ น้อยกว่าจำนวนแถว+จำนวนสดมภ์-1 โดยวิธีการนี้ คือ ต้องเพิ่มสโตน เซลล์
เซลล์ ให้ครบ โดยค่า xij ของทุกสโตน เซลล์ที่เพิ่มจะต้องเป็น 0 โดยให้ใช้ ซึ่งมีค่าใกล้เคียง 0 แทน โดยทั่วไปจะเพิ่มที่วอเตอร์
เซลล์ใดก็ได้ แต่ส่วนใหญ่จะนิยมเพิ่มที่วอเตอร์ เซลล์ที่เกิดจากสโตน เซลล์โดนย้ายออกไป แล้วให้พัฒนาคำตอบที่ดีที่สุด
ตามวิธีโมไดต่อได้เลย
ก่อนอื่นนั้นเราจำเป็นจะต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการเพิ่มค่าเข้าไปในช่องใดช่องหนึ่งของตาราง ซึ่งจะทำให้เกิด
ผลกระทบต่อเนื่องกันไปยังช่องอื่นๆด้วย และผลกระทบดังกล่าวจะต้องเป็นวงจรที่สมบูรณ์เราจึงจะได้คำตอบ
ตัวอย่างการเพิ่มค่าตัวแปร
ตัวอย่างที่ 11 เช่น เมื่อเราเพิ่มค่า X11 เข้าไป 10 หน่วย เราจะต้องเปลี่ยนแปลงผลกระทบไปเป็นวงจรดังนี้คือ
เราจะต้องหักออกจากค่าเดิม สมมุติว่าคือ X12 ซึ่งจะทำให้แถวนอนที่ 1 มีค่าเท่าเดิมจากนั้นจะต้อง บวกเพิ่มในแถวตั้ง
สมมุติคือ X22 และหักออกจากแถวนอนเดียวกัน แถวนอนที่ 2 จึงมีค่าเท่าเดิม จากนั้นบวกเพิ่มในแถวตั้งสมมุติว่าคือ
X33 และหักออกในแถวนอนเดียวกันสมมุติว่าคือ X31 แถวนอนที่ 3 จะมีค่าเท่าเดิม และเมื่อตรวจสอบแถวตั้งที่ 1
ซึ่งเพิ่มค่าเข้าไปในตอนแรกในช่องที่ 1 ก็จะ มีค่าเท่าเดิมด้วย การเปลี่ยนแปลงผลกระทบเป็นวงจรเช่นนี้มีความสำคัญ
อย่างยิ่งในการคำนวณหาคำตอบที่มีต้นทุนต่ำสุดทั้ง 2 วิธีที่จะได้กล่าวถึงต่อไป จึงควรทำความเข้าใจเสียให้ดีเป็นเบื้องแรก
เพื่อว่าจะได้ไม่เกิดความสับสน เมื่อวิธีการคำนวณซับซ้อนมากขึ้น
|